สโมสรฟุตบอล เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (SCG Muangthong United) เจ้าของฉายา กิเลนผยอง สนามเหย้า เอสซีจี สเตเดี้ยม สามารถจุผู้ชมได้ 15,000 ที่นั่ง ประธานสโมสรคนปัจจุบัน คือ คุณวิลักษณ์ โหลทอง โดยมีสยามสปอร์ต, ปูนซีเมนต์ไทย เป็นเจ้าของสโมสร
การก่อตั้งสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
SCG Muangthong United เริ่มก่อตั้งสโมสรปี 2532 ภายใต้ชื่อ “โรงเรียนหนองจอกพิทยานุสสรณ์” เริ่มต้นจากการแข่งขันครั้งแรกชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ง. ต่อมาได้แข่งขันไทยลีกดิวิชั่น 1 ซึ่งในปี 2545-2546 มีการเปลี่ยนชื่อทีมเป็น สโมสรฟุตบอลไข่มุกดำหนองจอก ในตอนนี้ได้มีการเข้ามาดูแลโดยอดีตนักการเมืองไทย แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จากการคุมทีมของ วีระ มุสิกพงศ์ จนต้องวางมือไป
ไทยลีกดิวิชัน 1 ในปี 2546 – 2547 สโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดได้เปลี่ยนชื่อทีมอีกครั้งซึ่งคราวนี้เปลี่ยนเป็น “หลักทรัพย์โกลเบล็ค หนองจอก” แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นเคย ต้องไปเล่นในถ้วยประเภท ข. และเปลี่ยนชื่อทีมมาเรื่อย ๆ ในปี 2547-2548 เป็น “หนองจอกพทยานุสรณ์” ตามเดิม” ซึ่งสามารถเข้าเล่นในบอลลีกดิวิชั่น 2 เป็นครั้งแรกหลังจากการจัดแข่งขันและเปลี่ยนชื่อใหม่อีกครั้งเป็น “เมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด”
การเข้าร่วมฟุตบอลลีก ของ สโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
ความสำเร็จของสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เกิดขึ้นในปี 2550 หลังจากที่ได้แชมป์ดิวิชั่น 2 เป็นครั้งแรกจนได้เลื่อนชั้นเพื่อขึ้นไปเล่นในลีกดิวิชั่น 1 ซึ่งในปี 2551 สามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จในไทนลีกดิวิชั่น 1 ทำให้เลื่อนขึ้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการแข่งขันสูงสุดที่ได้เข้าแข่งขันนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นมา 20 ปี เป็นสิ่งที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการฟุตบอล เพราะสามารถไล่ไต่อันดับการแข่งขันคว้าแชมป์ได้ตั้งแต่บอลลีกไทยและดิวิชั่น 2 สู่ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2554 และได้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกติดต่อกันอย่างไม่น่าเชื่อ และยังสามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ จากผลงานที่โดดเด่นด้วยดีตลอดมา ซึ่งมีมาตรฐานการเล่นเทียบเท่ากับสโมสรบีอีซี เทโรศาสน , ทหารอากาศ , ธนาคารกรุงไทย ณ ตอนนั้น
ในฤดูกาล 2555 SCG ได้เข้ามาเซ็นสัญญาที่มีมูลค่ามากถึง 600 ล้านบาท จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อสนามแข่งมาเป็น เอสซีจี สเตเดี้ยม และเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น “เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด” จนถึงทุกวันนี้ รวมถึงการเปลี่ยนตราโลโก้ใหม่ทั้งหมด และในปี 2555 ได้ทำสถิติไร้พ่ายเป็นครั้งแรกของสโมสรในไทย จนได้รับสิทธิ์ไปเล่น AFC Champions League ซึ่งปัจจุบันเป็นทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยและในเอเชีย และมีนักเตะชื่อดังและติดทีมชาติไทยหลายคนร่วมเล่นอยู่ในสโมสร
หมายเหตุ ขอขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/SCGMuangthongUnited
3,625 total views, 3 views today
