สโมสรฟุตบอล ศรีสะเกษ (Sisaket Football Club) เจ้าของฉายา กูปรีอันตราย ใช้ สนามศรีนครลำดวน เป็นสนามเหย้าของสโมสรในปัจจุบัน ซึ่งสามารถจุผู้คนได้ 11,200 ที่นั่ง ประธานสโมสรคนปัจจุบันคือ คุณธเนศ เครือรัตน์ โดยมีบริษัท ศรีสะเกษ เอฟซี จำกัด เป็นเจ้าของสโมสร
การก่อตั้งสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ
ทีมฟุตบอล ศรีสะเกษ เริ่มต้นการก่อตั้งครั้งแรกในปี 2542 โดยใช้ชื่อว่า “ศรีสะเกษ สตีลร็อก” ที่ทำทีมเพื่อต้องการแข่งขันในรายการไทยแลนด์ Provincial League ด้วยความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย ซึ่งในปีแรกของการแข่งขันสโมสรก็ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการได้รางวัลชนะเลิศรายการนี้ เรียกว่าเป็นการสร้างความสำเร็จ Step แรก หลังจากนั้นก็เข้าร่วมแข่งไทยแลนด์โปรวิเชียล ลีก ทุกครั้งที่มีการจัดขึ้น แต่โดยรวมแล้วผลงานยังไม่สามารถเทียบเท่ากับการได้แชมป์สมัยแรก ทำได้เพียงแค่อันดับที่ 5 เท่านั้นของการแข่งขันในรายการนี้เท่านั้น
ปี 2550 สโมสรได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง โดยใช้ชื่อว่า ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี สโมสรได้เข้าร่วมแข่งขันเพิ่มอีกหนึ่งรายการคือ ไทยแลนด์ลีก ซึ่งในครั้งนี้จบอันดับของการแข่งได้อันดับ 10 ทำให้ทีมตกชั้นไปเล่นในไทยดิวิชั่น 2 แต่ก็เป็นการตกชั้นเพียงปีเดียวเพราะปี 2552 สามารถเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นกับไทยดิวิชั่น 1 ได้ตามเดิม
การเข้าร่วมฟุตบอลลีกของสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ
ผลงานของ สโมสรฟุตบอล ศรีสะเกษ ในปี 2552 นั้น หลังจากที่ได้กลับมาเล่นในดิวิชั่น 1 ตามเดิม เป็นช่วงเวลาที่ได้รับความสนใจและได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย เพราะสามารถคว้าอันดับที่สามได้สำเร็จ และได้เลื่อนชั้นไปเล่นในไทยพรีเมียร์ลีก ต่อมาในปี 2551 ถือว่ามีกองเชียร์ติดตามสโมสรจำนวนมาก จนมีการเรียกกลุ่มตัวเองขึ้นมาว่าเป็น “กูปรีพลัดถิ่น” เพราะต้องตามไปเชียร์ถึงกรุงเทพมหานคร ยอมรับว่ากูปรีอันตรายมีแฟนบอลติดตามเป็นจำนวนมาก ไม่น้อยไปกว่าทีมอื่นๆ ในประเทศไทย ซึ่งในการแข่งขันจะมีแฟนบอลเชียร์เพิ่มขึ้นทุกเกม
ในปี 2553 ยิ่งเป็นปีทองของสโมสร ที่ได้เล่นไทยพรีเมียร์ลีก แต่ว่าผลงานกลับไม่ดีเหมือนที่คิดเพราะต้องจบอันดับที่ 14 และตกชั้นไปเล่นในไทยลีกดิวิชั่น 1 อีกครั้ง แต่ว่ามีการเปลี่ยนกฎใหม่เพิ่มจำนวนทีมเข้ามาทำให้สถานการณ์ของสโมสรถือว่าส้มหล่นและได้เล่นต่อในไทยพรีเมียร์ลีกเหมือนเดิม
โดยในปี 2555 สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ได้เปลี่ยนชื่อสโมสรอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็น “อีสาน ยูไนเต็ด” และ ปี 2556 กลับมาใช้ชื่อศรีสะเกษ เอฟซี ตามเดิมอีกครั้ง พร้อมทั้งสร้างประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลไทยด้วยการผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศรายการโตโยต้าลีกคัพ 2008 ได้ แต่ว่าพลาดท่าไม่ได้แชมป์ ซึ่งนั่นได้กลายเป็นแต่ผลงานดีที่สุดของกูปรีอันตราย ตั้งแต่ตั้งสโมสรมาเลยก็ว่าได้
หมายเหตุ ขอขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/sisaketfc2013
1,793 total views, 1 views today
