ฟุตบอลโลก (FIFA World Cup)

ฟุตบอลโลก หรือ FIFA World Cup เป็นชื่อย่อจากภาษาฝรั่งเศสที่ว่า The Fédération internationale de football association (FIFA)  จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2473 ถือเป็นองค์กรที่ใหญ่ที่สุด และเก่าแก่ที่สุดในบรรดาองค์กรเกี่ยวกับฟุตบอลโลก มีออฟฟิสตั้งอยู่ที่เมืองซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

ฟีฟ่ามีหน้าที่รับผิดชอบการจัดการแข่งขันทัวนาเมนท์ระดับนานาชาติที่สำคัญ โดยมีทัวนาเมนท์ที่โดดเด่นที่สุด รู้จักกันในนาม FIFA World Cup

ประวัติความเป็นมาของ ฟุตบอลโลก หรือ FIFA World Cup

ในช่วงเริ่มต้นศตวรรษที่ 20 นานาประเทศได้เริ่มมีความต้องการคณะกรรมการที่จะมาดูแลจัดการแข่งขันฟุตบอลในระดับนานาชาติ  เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติเริ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ซึ่งสมาคมฟุตบอลอังกฤษได้มีการถกเถียงกันเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการระดับนานาชาติขึ้น แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งมีประเทศ 7 ประเทศจากทวีปยุโรปจัดตั้งสมาคมฟีฟ่าขึ้นมาได้สำเร็จ  ฟีฟ่าจึงได้ถูกจัดตั้งขึ้นในเมืองปารีส ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 โดยชื่อภาษาฝรั่งเศสยังคงถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน แม้แต่ในประเทศที่ไม่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเลยก็ตาม โดยมีประธานฟีฟ่าคนแรก คือนาย โรเบิร์ต กูริน  (Robert Guérin)

ฟีฟ่าได้เริ่มจัดการแข่งขันระดับนานาชาติขึ้นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2449 แต่กลับไม่ได้รับความนิยมหรือประสบความสำเร็จมากนัก ผนวกกับสถานะทางการเงินที่ติดขัดของฟีฟ่า ทำให้นายโรเบิร์ตถูกแทนที่ด้วยนายแดเนียล เบอร์ลี่ วูลฟอลล์ (Daniel Burley Woolfall) จากประเทศอังกฤษ หลังจากนั้น ได้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลในปี พ.ศ. 2451 ในโอลิมปิกเกมส์ ที่เมืองลอนดอน และประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม แม้ว่านักฟุตบอลที่เข้าร่วมแข่งขันจะไม่ตรงกับกฎของฟีฟ่ามากนัก

อย่างไรก็ตาม สมาชิกของฟีฟ่า ได้แผ่ขยายนอกเหนือไปจากประเทศในกลุ่มยุโรป คือมีประเทศแอฟริกาใต้เข้าร่วมในปี พ.ศ. 2452 ประเทศอาเจนติน่าและชิลีได้เข้าร่วมในปี พ.ศ. 2455 และประเทศสหรัฐอเมริกาได้เข้าร่วมในปี พ.ศ. 2456

ในปี พ.ศ. 2464 จูลส์ ไรเม็ท (Jules Rimet) ได้ขึ้นมาเป็นประธานฟีฟ่าคนที่ 3 และเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดของฟีฟ่าตลอดระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 33 ปีของเขา 

ใน พ.ศ. 2467 ฟีฟ่าได้ช่วยจัดการแข่งขันฟุตบอลในโอลิมปิกเกมส์  แต่ในปี พ.ศ. 2471 ฟีฟ่าได้เริ่มมีความต้องการที่จะจัดงานเป็นของตัวเอง  การแข่งขันฟุตบอลโลกจึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา และกลายมาเป็นอีเวนท์กีฬาประเภทเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งได้เริ่มแข่งขันครั้งแรกในอุรุกวัย ในปี พ.ศ. 2473

อย่างไรก็ตาม ฟีฟ่า ได้เจอสภาวะติดขัดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เพราะมีผู้เล่นหลายคนถูกส่งตัวไปทำสงคราม ทำให้โอกาสที่จะเดินทางไปเล่นระดับนานาชาติได้หมดลง  ภายหลังสงครามโลก รวมทั้งการเสียชีวิตของวูลฟอลล์ ฟีฟ่าได้ตกไปอยู่ในมือของชาวดัตช์ที่ชื่อนายคาร์ล เฮิร์สแมน (Carl Hirschmann) เขาได้รักษาองค์กรให้อยู่รอดแต่ต้องแลกกับการที่ต้องถอนสมาคมออกจากประเทศ Home Nations อันได้แก่ ประเทศอังกฤษ เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ ที่ประกาศกร้าวว่าไม่อยากเข้าร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติกับประเทศที่เป็นศัตรูสงครามโลกของตน

ฟีฟ่ายุติการแข่งขันฟุตบอลโลกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และนำกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งในปี พ.ศ. 2493 ที่ประเทศบราซิล ในขณะที่ Home Nations กลับเข้ามาร่วมแข่งขันกับฟีฟ่าในปี พ.ศ. 2489 ทำให้ก่อนปี พ.ศ. 2497 ฟีฟ่าได้มีสมาชิกเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 85 ประเทศ

การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกทางโทรทัศน์ในปี พ.ศ. 2509  ทำให้ฟีฟ่าได้เติบโตขึ้น ภายใต้การนำของประธานคนใหม่ คือนายโจเซฟ เอส.แบรตเตอร์ (Joseph S. Blatter)  ท้ายที่สุด ฟีฟ่าได้มีประเทศที่มาเข้าร่วมเป็นสมาชิกถึง 204 ประเทศ 

ทัวนาเมนท์อื่นๆ

นอกเหนือไปจากการแข่งขันฟุตบอลโลกและโอลิมปิกเกมส์ ฟีฟ่ายังได้จัดการแข่งขันบอลโลกสำหรับเยาวชนอายุไม่เกิน 17 ปี และอายุไม่เกิน 20 ปี  อีกทั้งยังมีการจัดการแข่งขัน Confederations Cup ซึ่งเป็นการแข่งขันสำหรับแชมเปี้ยนจากแต่ละสมาพันธ์ทุกๆ 4 ปี โดยเริ่มแรกจัดขึ้นในซาอุดิอาระเบียทุกๆ 2 ปีในนาม King Fahd Cup และในปัจจุบันถือเป็นการแข่งขันนำร่องก่อนมีการแข่งขันฟุตบอลโลก 

เกมสำหรับนักเตะหญิง

สำหรับความตื่นตัวในเกมผู้หญิง ฟีฟ่าได้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกสำหรับผู้หญิงในปี พ.ศ. 2534  และมีการแข่งขันบอลโลกสำหรับผู้เล่นหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี (Women’s under-20 World Championship) ในปีพ.ศ. 2545 และมีการแข่งขันบอลโลกสำหรับผู้เล่นหญิงอายุต่ำกว่า 17 ปี  (An under-17 women’s championship) ในปี พ.ศ. 2551 ซึ่งยังไม่ได้รับความนิยมเท่าการแข่งขันของผู้เล่นชายเมื่อเทียบกันในปัจจุบัน

หมายเหตุ ขอขอบคุณภาพจาก www.fifa.com และ www.bbc.co.uk

 2,385 total views,  1 views today