การเล่นปิงปองนั้นเป็นกีฬาที่เล่นได้ไม่ยากและสนุก โดยอุปกรณ์ประจำตัวที่สำคัญสำหรับการเล่นกีฬาชนิดนี้คือ ไม้ปิงปองและลูกปิงปอง ซึ่งไม้ปิงปองจะมีข้อกำหนดของวัสดุที่จะต้องเป็นไปตามที่สหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติกำหนดเอาไว้ โดยผู้เล่นจะต้องเรียนรู้ วิธีจับไม้ปิงปอง ให้ถูกต้อง ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทดังต่อไปนี้
รวม วิธีจับไม้ปิงปอง ให้ถูกต้องพร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย
วิธีจับไม้ปิงปอง แบบสากล (Shake Hand) เป็นวิธีที่นิยมกันอย่างมากทั่วโลก โดยวิธีการจับจะมีลักษณะคล้ายกับการจับมือทักทายกันแบบตะวันตก
ข้อดีและข้อเสีย
- ข้อดีคือ มีมุมในการควบคุมลูกกว้างกว่า สามารถเล่นลูกปิงปองแบบต่างๆ เช่น Top Spin, Back Spin, หรือ Side Spin ได้ง่าย
- ไม่ต้องฝืนธรรมชาติในการปรับเปลี่ยนมือ สามารถตีลูกต่างๆ ได้อย่างเป็นไปตามธรรมชาติ
- ข้อเสียคือ การเปลี่ยนไม้เล่นอาจจะไม่สะดวกคล่องตัวเท่าที่ควร เช่น จะเปลี่ยนจากการตีลูกหลังมือ มาเป็นหน้ามืออาจจะเสียเวลาอยู่บ้าง ไม่สะดวกคล่องตัวเหมือนกับการจับไม้ปิงปองอีกแบบหนึ่ง
- มักเป็นจุดอ่อนให้คู่ต่อสู้ทำการตีลูกเข้ากลางลำตัวได้
วิธีจับไม้ปิงปอง แบบจีน (Chinese style) วิธีนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการจับไม้ปิงปองแบบปากกา เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักเล่นปิงปองแถบเอเชีย เนื่องจากมีรูปร่างค่อนข้างเล็ก มีการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วรวดเร็ว วิธีจับไม้ปิงปองแบบนี้จึงเหมาะกับการเคลื่อนไหวในรูปแบบดังกล่าวมากกว่า
ข้อดีและข้อเสีย
- ข้อดีคือ เหมาะกับการตีลูกแบบ Fore hand
- เหมาะกับผู้เล่นที่เน้นเล่นเกมสไตล์รุก เพราะเคลื่อนไหวและโต้ตอบได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถตบลูกได้รวดเร็วและแม่นยำ
- สามารถเปลี่ยนไม้ในการเล่นได้อย่างคล่องตัว เมื่อเทียบกับการจับไม้แบบ Shake Hand
- มียุทธวิธีในการตีลูกได้รุนแรงและหลากหลายกว่ามาก
- ข้อเสียคือ มีจุดอ่อนในการตีลูกแบบ Back hand หรือ Top Spin
- ไม่เหมาะกับผู้เล่นที่มีสไตล์รับเป็นส่วนใหญ่
ผู้เล่นที่กำลังจะฝึกเล่นปิงปอง ควรศึกษาและหมั่นฝึก วิธีจับไม้ปิงปอง ให้ถูกต้องเสียตั้งแต่เริ่มแรก เพื่อที่จะได้มีความเคยชินในการจับไม้อย่างถูกต้องก่อนเล่นจริง จะได้ไม่ต้องมาปรับใหม่ภายหลัง ซึ่งหากไม่แน่ใจสามารถขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือผู้เล่นมืออาชีพ เพื่อนำมาปรับใช้กับการฝึกได้
หมายเหตุ ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com
9,485 total views, 1 views today