ราคาบอลคืออะไร? อาจจะเป็นหนึ่งในคำถามที่นักเดิมพันเกมลูกหนังมือใหม่ยังคงสงสัย เนื่องจากเวลาเข้าไปหน้าแพลตฟอร์ตแทงบอลออนไลน์ ก็มักจะพบกับตัวเลขราคาหลายเลขที่ดูแล้วไม่เข้าใจ และไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี
บทความนี้มาดูกันว่าจริงๆ แล้ว ราคาบอลคืออะไร พร้อมทำความรู้จักกับราคาบอลทุกรูปแบบ ทั้งอัตราต่อรองบอล และราคาน้ำฟุตบอล รวมถึงวิธีคำนวณบิลแทงบอลเบื้องต้นแบบเข้าใจง่าย ที่ช่วยให้การแทงบอลของคุณคุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม
[elementor-template id=”33132″]
[elementor-template id=”33222″]
[elementor-template id=”33138″]
ราคาบอล คืออะไร มาทำความรู้จักกับราคาบอลทั้งหมด
ราคาบอล คือราคาที่จะอยู่ในทุกประเภทของการแทงบอล ถูกกำหนดขึ้นมาจากทางเจ้ามือหรือแพลตฟอร์มแทงบอลออนไลน์ โดยราคาบอลคือการเรียกรวมกันของ อัตราต่อรองบอล และค่าน้ำฟุตบอล
ในการแทงบอลทุกครั้งราคาบอลคือสิ่งจะถูกนำมาคิดร่วมกับจำนวนเงินที่คุณแทงบอล ไม่ว่าจะเป็นราคาบอลในแบบปกติหรือราคาบอลแบบสเต็ป และจะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนกำไรที่เราจะได้ หรือเสียจากการแทงบอลแต่ละครั้ง
ราคาบอลคือส่วนประกอบของราคา 2 อย่าง ได้แก่
- อัตราต่อรองบอล (Handicap หรือ HDP)
- ค่าน้ำฟุตบอล (Odds)
1. อัตราต่อรองบอล (Handicap หรือ HDP)
เป็นราคาที่กำหนดขึ้นเพื่อให้แต้มต่อกับทีมที่เป็นรองในการแข่งขัน ช่วยให้เกิดความสมดุลของราคาบอล ทำให้ทีมต่อไม่มีความได้เปรียบมากจนเกินไป และมีความยุติธรรมต่อผู้เดิมพันการแข่งขันมากขึ้นด้วย
ในการแทงบอลทุกครั้ง คุณจะสามารถเลือกได้ว่าจะแทงอัตราต่อรองบอลแบบไหน เพื่อให้คุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด โดยจะแบ่งอัตราต่อรองบอลเป็น 8 รูปแบบ ได้แก่
1. ราคาบอลต่อเสมอ หรือ 0.0
- ไม่มีทีมต่อหรือทีมรอง เล่นทีมไหนชนะจะได้เต็ม / เสมอคืนทุน / แพ้เสียเต็ม
2. ราคาบอลต่อ ป.ป หรือ 0.25 หรือ 0-0.5
- เล่นทีมต่อ ชนะได้เต็ม / เสมอเสียครึ่ง / แพ้เสียเต็ม
- เล่นทีมรอง ชนะได้เต็ม / เสมอได้ครึ่ง / แพ้เสียเต็ม
3. ราคาบอลต่อครึ่งลูก หรือ 0.5
- เล่นทีมต่อ ชนะได้เต็ม / เสมอเสียเต็ม / แพ้เสียเต็ม
- เล่นทีมรอง ชนะได้เต็ม / เสมอได้เต็ม / แพ้เสียเต็ม
4. ราคาบอลต่อครึ่งควบลูก หรือ 0.75 หรือ 0.5-1
- เล่นทีมต่อ ชนะ 1 ลูกได้ครึ่ง / ชนะ 2 ลูกขึ้นไปได้เต็ม / เสมอเสียเต็ม / แพ้เสียเต็ม
- เล่นทีมรอง ชนะได้เต็ม / เสมอได้เต็ม / แพ้ 1 ลูกเสียครึ่ง / แพ้ 2 ลูกขึ้นไปเสียเต็ม
5. ราคาบอลต่อหนึ่งลูก หรือ 1.0
- เล่นทีมต่อ ชนะ 1 ลูกคืนทุน / ชนะ 2 ลูกขึ้นไปได้เต็ม / เสมอเสียเต็ม / แพ้เสียเต็ม
- เล่นทีมรอง ชนะได้เต็ม / เสมอได้เต็ม / แพ้ 1 ลูกคืนทุน / แพ้ 2 ลูกขึ้นไปเสียเต็ม
6. ราคาบอลต่อลูกควบลูกครึ่ง หรือ 1.25 หรือ 1-1.5
- เล่นทีมต่อ ชนะ 1 ลูกเสียครึ่ง / ชนะ 2 ลูกขึ้นไปได้เต็ม / เสมอเสียเต็ม / แพ้เสียเต็ม
- เล่นทีมรอง ชนะได้เต็ม / เสมอได้เต็ม / แพ้ 1 ลูกได้ครึ่ง / แพ้ 2 ลูกขึ้นไปเสียเต็ม
7. ราคาบอลต่อหนึ่งลูกครึ่ง หรือ 1.5
- เล่นทีมต่อ ชนะ 1 ลูกเสียเต็ม / ชนะ 2 ลูกขึ้นไปได้เต็ม / เสมอเสียเต็ม / แพ้เสียเต็ม
- เล่นทีมรอง ชนะได้เต็ม / เสมอได้เต็ม / แพ้ 1 ลูกขึ้นไปเสียเต็ม
8. ราคาบอลต่อลูกครึ่งควบสอง หรือ 1.75 หรือ 1.5-2
- เล่นทีมต่อ ชนะ 1 ลูกเสียเต็ม / ชนะ 2 ลูกได้ครึ่ง / ชนะ 3 ลูกขึ้นไปได้เต็ม / เสมอเสียเต็ม / แพ้เสียเต็ม
- เล่นทีมรอง ชนะได้เต็ม / เสมอได้เต็ม / แพ้ 1 ลูกได้เต็ม / แพ้ 2 ลูกเสียครึ่ง / แพ้ 3 ลูกขึ้นไปเสียเต็ม
2. ค่าน้ำฟุตบอล (Odds)
เป็นราคาค่าธรรมเนียมหรือค่าต๋ง ที่ทางเจ้ามือหรือทางแพลตฟอร์มแทงบอลออนไลน์กำหนดขึ้น เพื่อนำไปใช้เป็นค่าดูแลและค่าบริการต่างๆ ซึ่งค่าน้ำฟุตบอลจะอยู่ต่อจากอัตราต่อรองบอล
โดยในการแทงบอลคุณจะสามารถเลือกชนิดของค่าน้ำฟุตบอลได้ ซึ่งค่าน้ำที่เป็นที่นิยมจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. ค่าน้ำมาเลย์ (MY)
เป็นค่าน้ำรูปแบบที่เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับการแทงบอลออนไลน์ นั่นเพราะว่าเป็นค่าน้ำที่ช่วยรักษาเงินเดิมพันเอาไว้ให้ไม่เสียไปทั้งหมดได้ โดยค่าน้ำแบบมาเลย์จะแบ่งราคาออกเป็น 2 แบบคือ
- ราคาน้ำแดง จะแสดงบนตารางราคาแทงบอลเป็น สีแดง และเครื่องหมายลบ เป็นราคาน้ำที่ถ้าแทงผลถูกจะได้ทุนคืนพร้อมกำไรอีกเท่าตัว แต่ถ้าแทงผลผิดจะเสียจำนวนเงินลงเดิมพันไปเท่ากับราคาน้ำ เช่น เดิมพันราคาน้ำแดง -0.62 ที่ 500 บาท แทงถูกจะได้ 1000 บาท แทงผิดจะเสียแค่ 62 บาท
- ราคาน้ำดำ จะแสดงบนตารางราคาแทงบอลเป็น สีดำ เป็นราคาน้ำที่ถ้าแทงผลถูกจะได้ทุนคืนพร้อมกำไรตามจำนวนค่าน้ำ ถ้าแทงผลผิดจะเสียจำนวนเงินลงเดิมพันไปทั้งหมด เช่น เดิมพันราคาน้ำดำ 0.79 ที่ 500 บาท แทงถูกจะได้ยอดจ่าย 500×0.79 = 395 บาท แทงเสียจะเสียเงินเดิมพันทั้งหมด
2. ค่าน้ำฮ่องกง (HK)
สำหรับค่าน้ำแบบฮ่องกง เป็นราคาบอลที่ไม่มีการแยกประเภทเหมือนค่าน้ำแบบมาเลย์ ซึ่งการคิดราคาบอลคือ ถ้าแทงเดิมพันไปเท่าไหร่ ก็จะได้ทุนคืนพร้อมกำไรตามจำนวนค่าน้ำ แต่ถ้าแทงเสียก็เสียทั้งหมด
เช่น เดิมพันราคาน้ำฮ่องกง 0.75 ที่ 500 บาท แทงถูกจะได้ยอดจ่าย 500×0.75= 375 บาท แต่ถ้าแทงเสียจะเสียเดิมพันทั้งหมด
3. ค่าน้ำยุโรป (EU)
ค่าน้ำยุโรปจะเป็นราคาบอลที่เหมือนกับค่าน้ำแบบฮ่องกง โดยมีวิธีคิดราคาเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่ยอดจ่ายซึ่งในการแสดงผลราคา จะรวมเอาจำนวนเงินทุนเข้ามาด้วย ราคานี้จึงช่วยให้ดูง่ายขึ้นว่า จริงๆ แล้วจะได้ยอดรวมทั้งหมดเท่าไหร่หากแทงถูก
เช่น เดิมพันค่าน้ำยุโรป 2.14 ที่ 500 บาท ถ้าแทงถูกระบบจะแสดงผลรวมออกมาเป็น 1,570 บาท ซึ่งเป็นราคาจ่ายที่รวมเอาทุนเข้ามาด้วยแล้ว แต่ถ้าแทงผิดก็เสียเดิมพันทั้งหมด
ค่าน้ำฟุตบอลสามารถไหลได้
การไหลราคาค่าน้ำฟุตบอลคือ ราคาน้ำที่ถูกกำหนดเอาไว้ในแต่ละทีม เกิดการไหลเกิดขึ้น-ลง อยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นตัวบอกความได้เปรียบ/เสียเปรียบของบอลแต่ละคู่ ซึ่งจะมีการกำหนดราคาไหลของบอลตามความเหมาะสมโดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ทั้งก่อนและระหว่างการแข่งขัน เช่น
- มีผู้เล่นโดนใบแดงในขณะแข่งขัน
- มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น หรือมีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บจนต้องออกจากการแข่งขัน
- อันดับทีมที่สูงกว่าหรือต่ำกว่า
- ฟอร์มการเล่นทั้งในฤดูกาล และระหว่างการแข่งขันว่าทีมไหนเล่นดีกว่ากัน ทีมนั้นก็จะมีความได้เปรียบมากกว่า
โดยการตั้งราคาบอลไหล ทางเจ้ามือหรือแพลตฟอร์มแทงบอลออนไลน์ จะใช้ 3 ปัจจัยหลัก ในการตั้งราคาบอลคือ
- การวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยการนำข้อมูลการแข่งขันมาวิเคราะห์ ซึ่งอาจจะเป็นการจ้างนักวิเคราะห์บอลที่มีประสบการณ์มาช่วยกำหนด โดยคนเหล่านี้จะนำเอาข้อมูลมาคาดการณ์ล่วงหน้า ด้วยโปรแกรมที่ใช้คำนวณราคาออกมาได้อย่างสมเหตุสมผล
- การคาดการณ์กระแสเงินสด ต่อมาจะใช้การคำนวณความเป็นไปได้ของรายจ่าย ให้กับลูกค้าที่แทงบอลชนะ เพื่อให้กระแสเงินสดอยู่ในสภาวะไม่ขาดทุน ด้วยเครื่องมือที่เป็นอัลกอริทึม ซึ่งจะช่วยให้ทางเจ้ามือสามารถรักษาสมดุลของการจ่ายเงินเอาไว้ได้
- การคำนวณจากกำไร เป็นการคำนวณจากกำไรที่ทางเจ้ามือจะได้รับ ซึ่งจำนวนเงินทั้งหมดนี้จะถูกรวมเข้าไปในเปอร์เซ็นของราคาบอลที่ไหลอยู่แล้ว และเป็นจำนวนที่ไม่ได้กระทบต่อการแทงบอลของลูกค้า
การคำนวณราคาบอล แบบเข้าใจง่าย
ตัวอย่าง แมตช์ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (ทีมต่อ) VS ลีลส์ โอเอสซี (ทีมรอง)
โดยเลือกแทงในอัตราค่าต่อครึ่งลูกหรือ 0.5 ที่ค่าน้ำแดง -0.76 ลงจำนวนเดิมพัน 1,000 บาท
1. หากผลออกมา ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ชนะ ลีลส์ โอเอสซี 1-0 จะได้ผลการคำนวณราคาบอลคือ ในอัตราต่อรอง 0.5 แทงทีมต่อชนะ จะได้เต็ม
จากนั้นจะดูที่ค่าน้ำว่าจะต้องคิดราคาบอลแบบไหน ซึ่งค่าน้ำแดงที่เลือกไป หากแทงชนะจะได้กำไรอีกเท่าตัวของจำนวนเงินลงทุน
นั่นคือ ได้กำไรอีก 1,000 บาท เมื่อรวมกับต้นทุนที่ลงไปจะได้กลับมา 2,000 บาท
2. หากผลออกมา ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เสมอหรือแพ้ ลีลส์ โอเอสซี ที่ 0-0 หรือ 0-1 จะได้ผลการคำนวณราคาบอลคือ ในอัตราต่อรอง 0.5 แทงทีมต่อเสมอหรือแพ้ จะเสียเต็ม
นั่นคือ เสียเงินเดิมพัน 1,000 บาท
ท้ายบทความ
ราคาบอลคือจำนวนเงินที่ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยปรับสมดุลของเกมการเดิมพันให้มีความสนุกยิ่งขึ้น โดยหากว่าเข้าใจในราคาบอลแต่ละรูปแบบ และเลือกแทงอย่างมีเทคนิค ก็จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มค่าจากการแทงบอลมากยิ่งขึ้น
หากใครที่กำลังมองหาแพลตฟอร์มแทงบอลออนไลน์ ที่ให้บริการค่าน้ำดีๆ ลงทุนแล้วคุ้มค่า มาสมัครใช้บริการได้เลยที่ databet88 รับรองเลยว่าประสบการณ์แทงบอลออนไลน์ของคุณ จะสนุกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
24,436 total views, 1 views today