บอลโลก2006 คือเรื่องราวแห่งความทรงจำที่อยู่ในใจแฟนบอลทั่วโลกอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันฟุตบอลโลกในนัดชิงชนะเลิศ ที่เป็นการพบกันระหว่างอิตาลีและฝรั่งเศสมีเรื่องราวที่ถือได้ว่าเป็นความทรงจำตลอดกาล ที่เมื่อไหร่ก็ตามที่พูดถึงเรื่องราวของบอลโลก 2006 จะต้องคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
บอลโลก2006 กับฟอร์มอันเฉื่อยชาของอิตาลีสู่รอบชิงชนะเลิศ
เหตุการณ์ที่แฟนบอลไม่มีวันลืมกับ บอลโลก2014
สำหรับบอลโลกปี 2006 เชื่อแน่ว่าทุกคนกากบาทชื่อของทีมชาติอิตาลีออกไปจากสารบบ เพราะในเวลานั้นทีมชาติเยอรมันทีมชาติฝรั่งเศสรวมไปถึงบราซิลและอาร์เจนตินา พร้อมทั้งทีมชาติสเปนยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม มองดูแล้วทีมอิตาลีไม่น่าจะเป็นทีมที่สามารถก้าวไปสู่การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศได้
แต่เพราะการเล่นในรูปแบบกำแพงแห่งกรุงโรมทำให้ทีมชาติอิตาลี สามารถก้าวขึ้นไปสู่การเป็นผู้ท้าชิงในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศของปี 2006 ได้เป็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอร์มการเล่นของมาร์โกมาเตรัซซี่ ที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก และเขาจะกลายเป็นตำนานคู่กับการแข่งขันบอลโลก 2006 ไปตลอดกาล
บอลโลกปี 2006 กับความเจ็บช้ำของทีมชาติฝรั่งเศส
และหนึ่งในทีมที่เข้ารอบการแข่งขัน บอลโลกปี 2006 จนสามารถทะลุขึ้นไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศได้คือทีมชาติฝรั่งเศส ที่ที่ใครหลายคนมองแล้วว่ามีโอกาสคว้าแชมป์มากที่สุด และนั่นเองกลายเป็นประสบการณ์อันแสนเจ็บปวด เพราะทุกคนจับตามองชายที่ชื่อว่าซีเนอดีนซีดานนักฟุตบอลระดับตำนานของโลก ที่ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลหลังจากการแข่งขันบอลโลกปี 2006 โดยตั้งใจว่าจะคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้อีกครั้งก่อนปลดระวางตัวเองออกไป
แต่เพราะผู้ท้าชิงของพวกเขาคืออิตาลีทำให้การแข่งขันฟุตบอลนัดนี้เต็มไปด้วยความดุเดือดและต้องแข่งขันกันถึงช่วงดวลจุดโทษ แต่สิ่งที่เป็นภาพจดจำมากที่สุดก็คือการปะทะคารมกันระหว่างมาร์โกมาเตรัซซี่และซีเนอดีนซีดาน ที่จบลงด้วยการที่ซีดานใช้หัวโขกมาเตรัซซี่จนตัวเองโดนใบแดง และพลาดโอกาสลงสนามยิงจุดโทษให้ทีมชาติฝรั่งเศสและเป็นผลให้อิตาลีกลายเป็นแชมป์รายการนี้ไปในที่สุด
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวแห่งภาพแห่งความทรงจำกับการแข่งขัน บอลโลกปี 2006 ที่คุณสามารถติดตามชมและอ่านข่าวต่าง ๆ เหล่านี้ได้อยู่เสมอ เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ด้านวงการฟุตบอลที่ไม่มีใครลืม ไม่ว่าคุณจะค้นหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลใดเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลโลก จะต้องมีเรื่องราวของมาเตรัซซี่และซีดานเป็นดาวประดับฟ้าประจำวงการฟุตบอลไปตลอดกาล
หมายเหตุ ขอขอบคุณภาพจาก
https://www.freepik.com
https://obs.line-scdn.net
https://upload.wikimedia.org
955 total views, 1 views today